จากกรณีข่าวฉาวของอาจารย์ม.ราชภัฏแห่งหนึ่ง ที่ลวงลูกศิษย์สาวเข้าม่านรูด ขอมีเพศสัมพันธ์ด้วยนั้น "เฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์" ได้สอบถามผู้เกี่ยวข้องถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และเปิดโปงการกระทำสุดฉาว พร้อมแนะวิธีหลีกเลี่ยงสำหรับนักศึกษาเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออารมณ์ได้อีก...
เปิดโปงวิธีการอาจารย์ฉาว...ตีสนิทหวังเซ็กซ์
นักศึกษาสาวรายหนึ่งเคยคบหาดูใจอาจารย์ฉาวมาแล้วปีกว่า ถึงขั้นเช่าบ้านอยู่กินกันฉันสามีภรรยา โดยตกหลุมพรางผู้ชายสุดโรแมนติก ปากหวานคนนี้มาแล้ว โดย น.ส.เอ อายุ 23 ปี อดีตนักศึกษา ม.ราชภัฏแห่งหนึ่ง เปิดเผยกับทีมเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ว่า เรื่องของเธอกับอาจารย์ฉาวเกิดขึ้นมาได้ 2 ปีกว่าแล้ว ซึ่งขณะนั้นเธอยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ และอาจารย์ฉาวได้มีท่าทางเข้ามาคุยเชิงชู้สาว ชวนไปกินข้าว พูดจาอ่อนหวาน จนกระทั่งวันหนึ่งอาจารย์ฉาวได้พาเธอไปกินข้าว จากนั้นก็เลี้ยวรถเข้าม่านรูด เพื่อมีอะไรกับเธอและเธอก็หลงคารมจนสมยอมมีอะไรด้วย หลังจากนั้นได้มาเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน
ระหว่างที่คบกันระยะเวลาหนึ่งปีกว่า อาจารย์ฉาวมีพฤติกรรมเจ้าชู้ คุยกับเด็กมหาวิทยาลัยแห่งนี้หลายต่อหลายคน ช่วงที่คบกันมีนักศึกษาสาวโทรมาบ่อย เท่าที่รู้ประมาณ 5-6 คน จนเธอเองทนไม่ไหว เมื่ออาจารย์ฉาวกำลังจะไปมีอะไรกับเด็กสาวคนหนึ่ง เกิดมีปากเสียงกันขึ้น อาจารย์ฉาวจึงใช้กำลังทำร้ายร่างกาย ตบตีและกักขังตนไว้ในบ้าน ก่อนจะขับรถออกไปหาเด็กสาวคนนั้น จากนั้นมาตนจึงตัดสินใจเลิกกับอาจารย์ฉาวและจะไปเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวไม่เหมาะสมที่จะเป็นพ่อพิมพ์ของชาติอีกต่อไป แต่เพื่อนของตนขอไว้ไม่อยากให้มีปัญหา จะได้จบๆ กันไป
ด้าน น.ส.บี อายุ 19 ปี นักศึกษาปี 1 ม.ราชภัฏแห่งหนึ่ง ก็ตกเป็นเหยื่อคารมของอาจารย์คนนี้เช่นกัน แต่โชคดีเธอเป็นคนเด็ดเดี่ยวไม่ยอมง่ายๆ โดย น.ส.บี เล่าถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญว่า ก่อนที่เธอจะเข้าศึกษาที่ ม.ราชภัฏแห่งนี้ ได้รู้จักอาจารย์ฉาวคนนี้ผ่านรุ่นพี่ซึ่งกำลังถูกจีบอยู่ จากนั้นเมื่อเธอเข้าไปเรียนกับอาจารย์ฉาวครั้งแรกได้มีการทักทายกันเหมือนคนรู้จัก และอาจารย์ฉาวเดินมาขอเบอร์เธอและบอกว่าเดี๋ยวมีงานให้ช่วยทำหน่อย น.ส.บี จึงให้เบอร์ไป
หลังจากนั้นอาจารย์ฉาวคนนี้ได้มีการติดต่อ พูดคุยกับ น.ส.บี อยู่บ่อยครั้ง ชวนไปกินข้าว และตอนไม่สบาย ก็แสดงความเป็นห่วงเป็นใยคอยดูแลเทคแคร์อย่างดีมาตลอด เหมือนผู้ชายที่เข้ามาจีบผู้หญิง แต่...เสืออย่างไรก็ยังเป็นเสือ เริ่มออกลายอีกครั้ง อาจารย์ฉาวได้ขอมีอะไรกับเธอ ซึ่ง น.ส.บี รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากและรับไม่ได้ที่อาจารย์มาพูดแบบนี้กับนักศึกษา “เราเสียเงินค่าเทอมมาเรียน เราไม่ได้เอาตัวมาแลกเกรดนะพี่!” น.ส.บี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังด้วยน้ำเสียงผิดหวัง
“เขาเป็นคนพูดจาหวาน เอาใจเก่ง มีคารมดี ไปหลอกผู้หญิงอีกว่าไม่มีภรรยา ผู้หญิงก็หลงเชื่อเต็มใจสมยอม จุดประสงค์ของเขาเพื่อเซ็กซ์อย่างเดียว เรื่องยื่นข้อเสนอแลกเกรดมีบ้าง แต่นักศึกษาบางคนก็หลงรักเขาไปเลย จนท้องและคลอดลูกออกมา แต่ไม่ทราบว่าเขาจะรับผิดชอบได้แค่ไหน เขาเองก็ไม่ค่อยมีเงิน และมีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสอยู่แล้ว” น.ส.บี กล่าว
แผนลวง...จับให้ได้คาหนังคาเขา !
น.ส.บี จึงนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเธอไปบอกอาจารย์ที่ปรึกษา จนมีการวางแผนประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจับให้ได้คาหนังคาเขา ซึ่ง น.ส.บี ได้ยอมคุยกับอาจารย์เรื่อยมา โดยเมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา อาจารย์ฉาวโทรมาเพื่อชวนเธอไปกินข้าว หลังจากวางสายเธอได้โทรศัพท์หาอาจารย์ที่ปรึกษาว่าจะออกไปกินข้าวกันและจะส่งข้อความรายงานสถานการณ์ตลอด หากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เพื่อให้อาจารย์ที่ปรึกษาเข้ามาช่วย
น.ส.บี เล่าต่อว่า “เขาได้ขับรถเลี้ยวเข้ารีสอร์ตแห่งหนึ่งบอกว่าอยากอาบน้ำ เพราะวันนี้สอนทั้งวัน และบอกกับคนที่รีสอร์ตว่าค้างคืน เราสงสัยเลยถามไปว่าทำไมถึงค้างคืน เขาก็หันมาบอกว่า วันนี้ค้างคืนด้วยกันนะ จากนั้นก็เดินเข้าห้องไปโดยเราให้เขาไปอาบน้ำก่อน ระหว่างนั้นจึงส่งข้อความหาอาจารย์ที่ปรึกษาว่าตอนนี้อยู่ที่รีสอร์ต ห้องเบอร์ 12 ให้มาช่วยหน่อย เมื่อผ่านไปพักหนึ่งเขาอาบน้ำเสร็จนุ่งผ้าขนหนูตัวเดียวออกมาจากห้องน้ำปรี่เข้ามาที่ตัวเรา แต่เราปฏิเสธขอไปอาบน้ำก่อน ซึ่งเขาก็ไม่ได้เอะใจอะไร เมื่อเข้าห้องน้ำได้จึงรีบส่งข้อความไปหาอาจารย์ที่ปรึกษาอีกครั้งว่ารู้สึกไม่ปลอดภัยแล้ว จังหวะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาเคาะประตูห้องพอดี ก็เลยช่วยไว้ได้ทัน”
ส่วนใหญ่ผู้หญิงที่ถูกอาจารย์หลอกมักจะอาย และไม่กล้าเอาเรื่อง เธอจึงต้องวางแผนนี้หวังจับให้ได้ เพื่อนักศึกษาคนอื่นๆ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อเช่นเธอและรุ่นพี่ของเธออีก
แนะวิธีป้องกันอาจารย์หื่น...หวังอึ๊บนักศึกษา
น.ส.เอ ฝากถึงน้องๆ นักศึกษาทุกคนว่า ควรจะเว้นระยะห่างระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ ไม่ควรมีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมากเกินไป และควรจะระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอ ไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออารมณ์ง่ายๆ เพราะผลที่ตามมามันอาจจะทำให้หมดอนาคต
ขณะที่ น.ส.บี กล่าวว่า อย่าหลงคารมของใครง่ายๆ คำหวานที่เขาพูดหรือท่าทางที่คอยดูแลเอาใจใส่ อาจจะหวังผลประโยชน์อื่นจากเรา และนักศึกษาที่เสียค่าเทอมมาเรียน ขอให้ตั้งใจเรียน อย่าไปใช้ร่างกายเพื่อแลกความสำเร็จ มันอาจจะทำให้เราต้องอับอายและเสียอนาคตก็ได้
แม้ไม่ผิดคดีอาญา...แต่ผิดวินัยร้ายแรงของสถาบันการศึกษา !
นายวิรัช หวังปิติพาณิชย์ ทนายความชื่อดัง กล่าวถึงเรื่องสุดฉาวนี้ ว่า ผู้เสียหายควรแจ้งความไว้ก่อน และไปร้องเรียนต่อสถาบันการศึกษานั้นที่อาจารย์คนนี้สังกัดอยู่ พร้อมกับให้บุคคลที่เคยตกเป็นผู้เสียหายมาเป็นพยาน ถึงแม้จะไม่ผิดกฎหมายอาญา เพราะอายุผู้เสียหายมากกว่า 18 ปี และไม่ได้มีการหลอกลวงหรือมอมยา เป็นความสมยอมจากการหลงคารม แต่ตามความผิดทางวินัยของการเป็นอาจารย์แล้วไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง หากเป็น ม.รัฐ อาจมีความผิดถึงขั้นให้ออก
ทั้งนี้ นักศึกษาควรจะเว้นระยะห่างจากอาจารย์ ไม่ควรใกล้ชิดกันมากเกินไป ในกรณีที่อาจารย์พูดจาเชิงชู้สาว นักศึกษาต้องระมัดระวังตัวหรือบอกอาจารย์ที่ปรึกษา และสำคัญที่สุดไม่ควรไปไหนมาไหนกับอาจารย์สองต่อสอง เพราะอาจมีปัญหาที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับตัวเราก็ได้
สำหรับกรณีที่สาวผู้เสียหายไม่กล้าไปแจ้งความหรือฟ้องศาล เนื่องจากอายที่จะต้องเล่าเรื่องอื้อฉาวให้ใครหลายคนฟัง หรือกังวลว่าทนายฝ่ายตรงข้ามจะถามคำถามในเชิงละลาบละล้วง ถือเป็นสิทธิ์ของทนายที่จะถามคำถาม เช่นว่า ระหว่างนั้นคุณอยู่ข้างบนหรือเปล่า ผู้เสียหายอาจจะไม่กล้าตอบ กลัวอับอาย ซึ่งไม่แฟร์เหมือนผู้เสียหายโดนข่มขืนซ้ำหลายรอบ ทั้งตำรวจ ศาล ทนาย
“ผมอยากให้ผู้เสียหายสู้คดี ต่อสู้กับคำถามที่ทำร้ายจิตใจ เพื่อที่จะนำคนผิดมาลงโทษ อย่าไปยอมความ ไม่อย่างนั้นเราก็ต้องยอมเขาเรื่อยๆ คนที่กระทำผิดจะยิ่งได้ใจ” ทนายชื่อดังกล่าวทิ้งท้าย
ติดต่องาน 0812585681