“ไม่มีสัญญาเงินกู้ ฟ้องร้องได้หรือไม่” เป็นข้อความที่ผู้อ่านหนังสือพิมพ์สยามธุรกิจท่านหนึ่งได้สอบถามเข้ามาที่เวปไซด์ Tanaiwirat.com ซึ่งทนายวิรัชและทีมงานได้ตอบคำถามแล้ว และเห็นว่า เรื่องนี้น่าจะมีประโยชน์กับผู้อ่านท่านอื่นๆ ที่กำลังมีปัญหานี้ แม้กระทั่งลูกหนี้ก็จะได้รับประโยชน์เช่นกัน
ตามหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินกู้นั้น กฎหมายไม่ได้กำหนดว่าต้องทำเป็นสัญญาเงินกู้ เพียงแต่ต้องการว่า “ต้องมีหลักฐานแห่งการกู้ยืมและลงลายมือชื่อผู้กู้ จึงจะสามารถฟ้องร้องได้” หลักฐานดังกล่าวต้องมีข้อความที่แสดงว่าจำเลยหรือผู้ที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้กู้ได้รับเงินไปและจะใช้คืน
ตัวอย่าง
ข้าพเจ้า..(ชื่อผู้กู้)....ได้กู้ยืมเงินและได้รับเงินแล้วจาก..(ชื่อผู้ให้กู้)....จำนวนเงิน...(จำนวนเงินที่กู้).. และจะใช้คืนในวันที่...(วันที่จะคืนเงินกู้)........
ลงชื่อ.....(ลายมือชื่อผู้กู้)....................
ตามตัวอย่าง เพียงเท่านี้ก็สามารถนำหลักฐานดังกล่าวไปฟ้องร้องได้แล้ว ส่วนจะใช้เอกสารใดในการเขียนข้อความนี้ สมัยทนายวิรัชเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช โดยท่านอาจารย์ รองศาสตราจารย์ ปิยะ
ทนายวิรัชมีอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นคำตัดสินของศาล คือ เจ้าหนี้ไปทวงเงินลูกหนี้ โดย ลูกหนี้รู้ว่า การยืมครั้งนี้ไม่ได้ทำหลักฐานเอาไว้ จึงไม่ยอม เจ้าหนี้โกรธจึงได้เข้าทำร้ายร่างกายลูกหนี้ ลูกหนี้จึงได้นำเรื่องทั้งหมดไปแจ้งความกับตำรวจ จึงทำให้ปรากฏข้อความในรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีตอนหนึ่งว่า “ได้มีการยืมเงินและตกลงคืนเงิน” และลูกหนี้ก็ได้ลงลายมือชื่อในรายงานด้วย รายงานดังกล่าวจึงเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืม สามารถฟ้องร้องบังคับคดีได้
ประเด็นปัญหาอื่นที่เกี่ยวข้อง ถ้าขณะนี้ไม่มีหลักฐานดังกล่าว จะสามารถกระทำขึ้นภายหลังแล้วได้หรือไม่ ประเด็นนี้กฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ว่า เมื่อยืมเงินกันต้องทำหลักฐานขึ้นทันที กฎหมายเพียงกำหนดว่า เมื่อจะฟ้องบังคับกันต้องมีหลักฐาน ถ้าไม่มีหลักฐานก็ไม่สามารถฟ้องร้อง ดังนั้นจึงสามารถทำหลักฐานภายหลังได้ ปัญหามีเพียงแค่ลูกหนี้จะยอมทำหรือไม่
ทนายวิรัชหวังว่าเจ้าหนี้และลูกหนี้คงจะพอเห็นทางออกบ้างนะครับ