บทนำ
การฟ้องหย่าไม่ใช่แค่การยุติความสัมพันธ์ในฐานะสามีภรรยา แต่ยังเกี่ยวข้องกับสิทธิ หน้าที่ ทรัพย์สิน บุตร และอนาคตของแต่ละฝ่ายอย่างลึกซึ้ง บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจกระบวนการฟ้องหย่าในประเทศไทยอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งให้คำแนะนำด้านกฎหมายอย่างละเอียด โดยไม่ใช้ศัพท์ซับซ้อนหรือกฎหมายที่เข้าใจยาก
หย่าในประเทศไทย: แบบสมัครใจ vs ฟ้องหย่า
1. การหย่าโดยความยินยอมทั้งสองฝ่าย
คือการที่สามีภรรยาตกลงแยกทางกันโดยไม่มีข้อพิพาท ต้องทำหนังสือหย่าต่อหน้าพนักงานทะเบียน และเซ็นชื่อทั้งสองฝ่าย
เอกสารที่ใช้:
- บัตรประชาชนตัวจริงของทั้งสองฝ่าย
- ทะเบียนสมรส
- หนังสือข้อตกลงเกี่ยวกับบุตรและทรัพย์สิน (ถ้ามี)
ข้อดี:
- กระบวนการรวดเร็ว
- ไม่ต้องขึ้นศาล
- ประหยัดค่าใช้จ่าย
2. การฟ้องหย่า (กรณีมีข้อพิพาทหรืออีกฝ่ายไม่ยินยอม)
ในกรณีที่อีกฝ่ายไม่ยินยอมหย่า หรือมีเหตุแห่งการหย่าตามกฎหมาย จำเป็นต้อง “ฟ้องหย่า” ต่อศาล
เหตุแห่งการฟ้องหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516
กฎหมายไทยระบุเหตุที่สามารถนำมาใช้ในการฟ้องหย่าได้ โดยต้องพิสูจน์ในชั้นศาล ได้แก่:
เหตุฟ้องหย่า | คำอธิบาย |
---|---|
มีชู้ หรือสัมพันธ์ชู้สาว | ไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่สมรส |
กระทำทารุณกรรม | ทำร้ายร่างกาย จิตใจ หรือมีพฤติกรรมรุนแรง |
จงใจละทิ้ง | ทอดทิ้งไม่ให้เลี้ยงดูเกิน 1 ปี |
แยกกันอยู่เกิน 3 ปี | โดยไม่มีเหตุอันควร |
ต้องโทษจำคุก | เกิน 1 ปี โดยมีผลต่อชีวิตสมรส |
มีโรคร้ายแรงหรือจิตฟั่นเฟือน | ส่งผลให้ใช้ชีวิตคู่ไม่ได้ตามปกติ |
ขาดการติดต่อเกิน 3 ปี | ไม่ทราบว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ใด |
ขั้นตอนการฟ้องหย่า
ขั้นตอนที่ 1: ปรึกษาทนายเพื่อวิเคราะห์ข้อกฎหมาย
ทนายความจะช่วยวิเคราะห์ว่าเหตุหย่าเข้าข่ายตามกฎหมายหรือไม่ และเตรียมหลักฐานที่เหมาะสม
ขั้นตอนที่ 2: ยื่นฟ้องศาล
ต้องยื่นคำฟ้องต่อศาลจังหวัดที่ฝ่ายถูกฟ้องมีภูมิลำเนา หรือที่เกิดเหตุแห่งคดี เช่น บ้านที่ใช้ร่วมกัน
ขั้นตอนที่ 3: นัดไกล่เกลี่ย
ศาลจะนัดไกล่เกลี่ยก่อนเพื่อหาทางตกลง หากตกลงกันได้ก็จะมีคำพิพากษาให้หย่าโดยไม่จำเป็นต้องพิจารณาคดีเต็มรูปแบบ
ขั้นตอนที่ 4: พิจารณาคดี
หากตกลงไม่ได้ ศาลจะไต่สวนพยานหลักฐาน ก่อนมีคำพิพากษาให้หย่าหรือไม่
ขั้นตอนที่ 5: จดทะเบียนหย่าหลังศาลมีคำสั่ง
แม้ศาลจะพิพากษาให้หย่าแล้ว ต้องนำคำสั่งศาลไปจดทะเบียนหย่ากับสำนักงานเขตหรืออำเภอเพื่อให้สมบูรณ์ตามกฎหมาย
ประเด็นที่ต้องตกลงในการฟ้องหย่า
1. สิทธิในการปกครองบุตร
ศาลจะพิจารณาจากประโยชน์สูงสุดของบุตร ไม่จำเป็นว่ามารดาจะได้สิทธิเสมอไป
2. ค่าเลี้ยงดูบุตร
ฝ่ายที่ไม่ได้ดูแลบุตรต้องจ่ายเงินเลี้ยงดู ซึ่งสามารถตกลงกัน หรือให้ศาลกำหนดตามฐานะ
3. แบ่งทรัพย์สิน
ต้องแยก ทรัพย์สินส่วนตัว กับ สินสมรส (ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรส) และแบ่งกันตามกฎหมาย
เอกสารที่จำเป็นในการฟ้องหย่า
- สำเนาทะเบียนสมรส
- หลักฐานที่แสดงเหตุฟ้อง (เช่น รูปถ่าย แชท เอกสารจากตำรวจ หรือแพทย์)
- ทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน
- เอกสารเกี่ยวกับบุตร (ถ้ามี)
- เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สิน เช่น โฉนดบ้าน รถยนต์ รายการบัญชีธนาคาร
คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับการฟ้องหย่า
Q1: ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการฟ้องหย่า?
A: โดยเฉลี่ย 4–12 เดือน ขึ้นอยู่กับการไกล่เกลี่ยและจำนวนพยานหลักฐาน
Q2: ค่าทนายความประมาณเท่าไหร่?
A: ประมาณ 20,000–80,000 บาท แล้วแต่ความซับซ้อนของคดี
Q3: หากอีกฝ่ายไม่มาศาลจะเป็นอย่างไร?
A: ศาลสามารถพิจารณาคดีฝ่ายเดียวได้ หากเรียกแล้วไม่มาตามนัด
Q4: ถ้ามีชู้ จำเป็นต้องมีหลักฐานชัดเจนแค่ไหน?
A: ต้องมีพยานหรือหลักฐานที่สามารถบ่งชี้ได้ถึงความสัมพันธ์ชู้สาว เช่น การใช้ชีวิตร่วมกัน คำสารภาพ แชทที่ชัดเจน หรือพยานบุคคล
คำแนะนำก่อนตัดสินใจฟ้องหย่า
- ประเมินผลกระทบทางอารมณ์ – การหย่าคือการเปลี่ยนแปลงที่อาจกระทบต่อบุตรและครอบครัว ควรไตร่ตรองให้ดี
- เก็บรวบรวมหลักฐานล่วงหน้า – หากคิดว่าจำเป็นต้องฟ้อง ควรเก็บพยานหลักฐานไว้แต่เนิ่น ๆ
- พูดคุยเจรจา – หากยังพอมีช่องทางตกลงด้วยดี การหย่าโดยความยินยอมจะง่ายกว่า
- เตรียมวางแผนการเงิน – ทั้งในแง่ทรัพย์สินส่วนตัวและภาระค่าใช้จ่ายหลังหย่า
- ไม่ควรฟ้องหย่าโดยใช้อารมณ์ – ให้พิจารณาอย่างรอบคอบทุกแง่มุม
สรุป
การฟ้องหย่าในประเทศไทยมีขั้นตอนและข้อกฎหมายที่ต้องศึกษาให้เข้าใจอย่างละเอียด ทั้งในเรื่องเหตุผลตามกฎหมาย เอกสารที่จำเป็น และกระบวนการในศาล การมีทนายความที่เข้าใจกฎหมายและสามารถอธิบายอย่างชัดเจน จะช่วยให้กระบวนการหย่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่เพิ่มภาระทางจิตใจและทรัพย์สินโดยไม่จำเป็น
หากคุณกำลังเผชิญปัญหาในชีวิตคู่และต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถติดต่อทนายวิรัชเพื่อปรึกษาคดีหย่าอย่างเป็นกันเองได้ที่:
📞 สายด่วน โทร 081-258-5681
📱 Add LINE: @732hjgrx
