กฎหมายครอบครัวที่คนไทยควรรู้ ก่อนเกิดปัญหาจนถึงขึ้นโรงขึ้นศาล

บทนำ: ทำไมทุกคนควรรู้เรื่องกฎหมายครอบครัว

กฎหมายครอบครัวไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะทุกคนต่างมีครอบครัว และหลายสถานการณ์ในชีวิต เช่น การแต่งงาน หย่าร้าง การเลี้ยงดูบุตร หรือการแบ่งทรัพย์สิน ล้วนเกี่ยวข้องกับกฎหมายเหล่านี้โดยตรง หากไม่เข้าใจกฎหมายครอบครัวให้ดี อาจเสี่ยงต่อการเสียสิทธิ หรือกลายเป็นปัญหาทางกฎหมายที่ยุ่งยากเกินจำเป็น


1. การสมรสตามกฎหมายไทย

การสมรสที่ชอบด้วยกฎหมายในประเทศไทยต้องเป็นการสมรสแบบจดทะเบียน ณ สำนักงานเขตหรืออำเภอเท่านั้น โดยมีเงื่อนไขหลักๆ ดังนี้:

  • อายุไม่ต่ำกว่า 17 ปี (หรือมีคำสั่งศาลอนุญาต)
  • ไม่มีคู่สมรสอยู่ก่อนหน้า
  • ไม่เป็นญาติสายตรง
  • ต้องได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่าย

หากเป็นการแต่งงานแบบพิธีทางศาสนา หรือแต่งตามประเพณีแต่ไม่จดทะเบียน จะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย


2. สิทธิและหน้าที่ของคู่สมรส

หลังจากสมรสตามกฎหมายแล้ว คู่สมรสมีหน้าที่ร่วมกันหลายด้าน เช่น:

ประเด็นรายละเอียด
การเลี้ยงดูบุตรต้องช่วยกันดูแลและจัดการศึกษาบุตรอย่างเหมาะสม
ทรัพย์สินสมรสทรัพย์สินที่ได้หลังสมรส ถือเป็น “สินสมรส” ซึ่งต้องแบ่งครึ่งเมื่อต้องหย่า
การตัดสินใจร่วมกันเช่น การขายบ้าน หรือจัดการทรัพย์สินร่วม

3. หย่าร้าง: ทางออกสุดท้ายเมื่อชีวิตคู่ไปต่อไม่ได้

การหย่ามี 2 แบบ:

ก. หย่าด้วยความยินยอม (Mutual Consent)

คู่สมรสทั้งสองฝ่ายยินยอมตกลงหย่ากัน และสามารถไปจดทะเบียนหย่าที่เขต/อำเภอได้เลย โดยควรจัดทำข้อตกลงเรื่อง:

  • การแบ่งทรัพย์สิน
  • สิทธิการเลี้ยงดูบุตร
  • ค่าเลี้ยงดู

ข. หย่าฟ้อง (Contested Divorce)

เกิดขึ้นเมื่ออีกฝ่ายไม่ยินยอม ต้องนำคดีขึ้นสู่ศาล ซึ่งเหตุหย่าตามกฎหมายมีหลายข้อ เช่น:

  • อีกฝ่ายมีชู้
  • ทอดทิ้งกันเกิน 1 ปี
  • กระทำทารุณกรรม
  • เสียสติ หรือป่วยเรื้อรังจนใช้ชีวิตคู่ไม่ได้

การหย่าฟ้องอาจใช้เวลานาน และต้องมีพยานหลักฐานประกอบ จึงควรปรึกษาทนายตั้งแต่เริ่มต้น


4. การแบ่งทรัพย์สินหลังหย่า

ทรัพย์สินจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท:

  • สินส่วนตัว: เช่น ทรัพย์ที่มีมาก่อนสมรส มรดก หรือของใช้เฉพาะตัว
  • สินสมรส: ทรัพย์ที่ได้มาหลังสมรส เช่น เงินเดือน รถยนต์ บ้านที่ซื้อร่วมกัน

โดยหลักกฎหมายไทย สินสมรสต้องแบ่งเท่า ๆ กัน เว้นแต่มีการตกลงเป็นอย่างอื่น


5. สิทธิในการเลี้ยงดูบุตร

หากมีบุตร การตกลงว่าใครจะเลี้ยงดูเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งกฎหมายให้ความสำคัญกับ “ผลประโยชน์สูงสุดของเด็ก” (Best Interest of the Child) มากที่สุด

กรณีที่ไม่ตกลงกันได้ ศาลจะพิจารณาจาก:

  • ความสามารถในการเลี้ยงดู
  • ความผูกพันระหว่างเด็กกับพ่อแม่
  • สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโต

6. ค่าเลี้ยงดูและสิทธิการเยี่ยมบุตร

แม้ไม่ได้มีสิทธิเลี้ยงดูโดยตรง แต่พ่อหรือแม่ยังต้องรับผิดชอบค่าเลี้ยงดูตามสมควร และมีสิทธิในการเยี่ยมบุตรเช่นกัน

ประเด็นข้อควรรู้
ค่าเลี้ยงดูศาลจะพิจารณาจากรายได้ และความต้องการของเด็ก
สิทธิการเยี่ยมควรกำหนดให้ชัด เช่น สัปดาห์ละ 1 ครั้ง หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์

7. บุตรนอกสมรส: สิทธิของบิดา

หากบุตรเกิดจากพ่อแม่ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส บิดาต้อง “รับรองบุตร” เพื่อให้มีสิทธิในฐานะบิดาตามกฎหมาย โดยสามารถทำได้ผ่าน:

  • การจดทะเบียนรับรองบุตรที่เขต/อำเภอ
  • คำสั่งศาลให้รับรองบุตร

เมื่อรับรองแล้ว บิดาจะมีสิทธิและหน้าที่ต่อเด็กเทียบเท่ามารดา


8. พินัยกรรมและสิทธิทางมรดกในครอบครัว

ในกรณีไม่มีพินัยกรรม กฎหมายจะกำหนดลำดับการรับมรดกไว้ชัดเจน โดยคู่สมรสและบุตรจะมีสิทธิในลำดับต้น ๆ การทำพินัยกรรมสามารถระบุเจาะจงได้ว่าจะให้ใครได้รับมรดกอย่างไร


9. ความรุนแรงในครอบครัว: สิทธิคุ้มครองตามกฎหมาย

กฎหมายคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัวอย่างเข้มงวด ทั้งด้านกาย จิตใจ และเศรษฐกิจ เช่น:

  • การออกคำสั่งศาลให้ผู้กระทำออกจากบ้าน
  • คำสั่งห้ามเข้าใกล้
  • คำสั่งให้บำบัดฟื้นฟู

10. ปรึกษากฎหมายครอบครัว ควรเริ่มอย่างไร?

หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการหย่า ทรัพย์สิน การเลี้ยงดูบุตร หรือปัญหาครอบครัวอื่น ๆ อย่าปล่อยให้ปัญหาลุกลาม

📞 สามารถติดต่อทนายวิรัชได้ที่ สายด่วน โทร 081-258-5681
📱 หรือ Add LINE: @732hjgrx


บทสรุป: รู้ทันกฎหมายครอบครัว = ปกป้องตัวเองและคนที่คุณรัก

การเข้าใจกฎหมายครอบครัวไม่เพียงช่วยแก้ปัญหา แต่ยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายทางจิตใจและทรัพย์สินในอนาคต หากคุณหรือคนใกล้ชิดกำลังเผชิญสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายครอบครัว อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้มีความรู้เพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างถูกต้องและสงบที่สุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *