รู้ทันสิทธิแรงงาน! ลูกจ้าง-นายจ้างควรรู้ ก่อนเจอปัญหากฎหมายแรงงาน
กฎหมายแรงงาน เป็นหนึ่งในกฎหมายสำคัญที่มีผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้างหรือเจ้าของกิจการ หากละเลยหรือไม่เข้าใจในสิทธิและหน้าที่ของตนเอง อาจก่อให้เกิดข้อพิพาทแรงงานที่ส่งผลเสียทั้งในด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลได้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักสาระสำคัญของกฎหมายแรงงานไทยที่ควรรู้ พร้อมแนะนำแนวทางป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
กฎหมายแรงงานคืออะไร?
กฎหมายแรงงาน (Labour Law หรือ Employment Law) คือ ข้อกฎหมายที่กำหนดสิทธิ หน้าที่ และความสัมพันธ์ระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความคุ้มครองแก่ลูกจ้าง และสร้างความเป็นธรรมในการจ้างงาน
ในประเทศไทย กฎหมายแรงงานที่ใช้บังคับหลักได้แก่
- พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
- พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518
- พระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537
- พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533
สิทธิพื้นฐานของลูกจ้างที่ควรรู้
1. สิทธิในการได้รับค่าจ้าง
ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าจ้างตรงตามที่ตกลงกันในสัญญาจ้าง และต้องไม่ต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด โดยปัจจุบันค่าจ้างขั้นต่ำแตกต่างกันไปในแต่ละจังหวัด
2. เวลาทำงานและเวลาพัก
กฎหมายกำหนดให้ลูกจ้างทำงานไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน หรือไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เว้นแต่บางประเภทงานสามารถตกลงให้ทำงานไม่เกิน 9 ชั่วโมงต่อวันได้ แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
3. การลาหยุดประจำปีและวันหยุดนักขัตฤกษ์
ลูกจ้างมีสิทธิได้รับวันหยุดประจำสัปดาห์ ไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 1 วัน และวันหยุดนักขัตฤกษ์ไม่น้อยกว่าปีละ 13 วัน รวมวันแรงงานแห่งชาติ
4. การลาอื่น ๆ ที่ลูกจ้างพึงได้รับ
ลูกจ้างมีสิทธิลาป่วย ลาคลอด ลากิจ ลาทำงานเพื่อสังคมบางกรณี และต้องได้รับค่าจ้างตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
5. การได้รับค่าชดเชยเมื่อเลิกจ้าง
หากนายจ้างเลิกจ้างโดยไม่มีความผิดร้ายแรง ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าชดเชยตามระยะเวลาการทำงาน โดยมีตั้งแต่ 30 วัน ถึง 400 วัน
หน้าที่ของนายจ้างตามกฎหมายแรงงาน
- จัดทำสัญญาจ้างที่เป็นธรรม
- จ่ายค่าจ้างตรงตามเวลา
- ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยในการทำงาน
- หลีกเลี่ยงการเลือกปฏิบัติ
- เคารพสิทธิของลูกจ้างตามกฎหมาย
ข้อผิดพลาดที่นายจ้างและลูกจ้างมักทำ
สำหรับนายจ้าง:
- ไม่มีการทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร
- ไม่แจ้งการเลิกจ้างล่วงหน้าตามกฎหมาย
- เลี่ยงการจ่ายค่าชดเชยโดยไม่ชอบ
- ไม่จ่ายค่าล่วงเวลาตามจริง
สำหรับลูกจ้าง:
- ไม่เก็บหลักฐานการทำงาน
- ไม่ทราบสิทธิของตนเอง
- ยอมตกลงเงื่อนไขที่ขัดต่อกฎหมาย
- เข้าใจผิดเกี่ยวกับการลาโดยยังได้รับค่าจ้าง
การเลิกจ้างอย่างเป็นธรรม
การเลิกจ้างลูกจ้างต้องดำเนินการอย่างเป็นธรรม กล่าวคือ นายจ้างต้องมีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น
- ลูกจ้างกระทำความผิดร้ายแรง
- ธุรกิจประสบภาวะขาดทุนหรือจำเป็นต้องลดต้นทุน
- การปรับโครงสร้างองค์กร
แต่ในกรณีที่ไม่มีเหตุผลเพียงพอ หรือไม่ได้แจ้งล่วงหน้าตามกฎหมาย นายจ้างจะต้องชดเชยเงินเดือนและค่าชดเชยตามระยะเวลาทำงาน
ลูกจ้างจะปกป้องสิทธิของตนเองได้อย่างไร?
- อ่านและทำความเข้าใจสัญญาจ้างอย่างละเอียด
- เก็บบันทึกวันทำงาน เวลาทำงาน และการลางานไว้เสมอ
- ไม่เซ็นยินยอมเอกสารใด ๆ หากยังไม่เข้าใจ
- ติดต่อที่ปรึกษาด้านกฎหมายแรงงานเมื่อต้องการคำปรึกษา
- ร้องเรียนต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือดำเนินคดีแรงงานหากถูกละเมิดสิทธิ
นายจ้างจะหลีกเลี่ยงข้อพิพาทแรงงานได้อย่างไร?
- ทำสัญญาจ้างที่ชัดเจน มีรายละเอียดครบถ้วน
- จัดอบรมให้ทีม HR เข้าใจหลักกฎหมายแรงงาน
- มีช่องทางให้ลูกจ้างร้องเรียนภายในองค์กร
- ปรับปรุงสภาพการทำงานให้เหมาะสม
- ขอคำปรึกษาทางกฎหมายก่อนดำเนินการใด ๆ ที่อาจกระทบต่อสิทธิของลูกจ้าง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน
Q: นายจ้างสามารถให้ลูกจ้างทำงานเกิน 8 ชั่วโมงได้หรือไม่?
A: ได้ แต่ต้องไม่เกิน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และต้องได้รับค่าล่วงเวลาตามกฎหมาย
Q: ลูกจ้างมีสิทธิลาออกโดยไม่แจ้งล่วงหน้าได้หรือไม่?
A: โดยทั่วไปควรแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 งวดการจ่ายค่าจ้าง เว้นแต่มีเหตุจำเป็น
Q: หากถูกเลิกจ้างโดยไม่มีเหตุผล ทำอย่างไร?
A: ลูกจ้างสามารถร้องเรียนต่อพนักงานตรวจแรงงาน หรือฟ้องศาลแรงงานเพื่อขอความเป็นธรรมได้
บทสรุป: ป้องกันไว้ดีกว่าแก้
กฎหมายแรงงานเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนควรให้ความสนใจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการและพนักงานในทุกระดับ เมื่อทุกฝ่ายรู้สิทธิและหน้าที่ของตนอย่างชัดเจน ย่อมช่วยลดข้อพิพาท และสร้างความมั่นคงในระบบแรงงานไทย
ต้องการคำปรึกษาด้านกฎหมายแรงงาน?
หากคุณกำลังเผชิญปัญหาแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นการถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม การเรียกร้องค่าชดเชย หรือปัญหาสัญญาจ้าง เรายินดีให้คำปรึกษา
สามารถติดต่อทนายวิรัชได้ที่
สายด่วน โทร 0812585681 หรือ add line @732hjgrx