ฟ้องหย่าอย่างไรให้ถูกกฎหมายและไม่เสียเปรียบ: คู่มือสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่

บทนำ

การหย่าอาจเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิตของคู่สมรส แต่หากชีวิตคู่ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างมีความสุข การ “ฟ้องหย่า” ก็เป็นทางเลือกตามกฎหมายที่ให้โอกาสแก่คู่กรสที่ได้รับความเสียหายหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแยกทางอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยบทความนี้จะพาคุณเข้าใจทุกขั้นตอน ตั้งแต่เหตุผลที่สามารถฟ้องหย่าได้ วิธีดำเนินการ สิทธิและหน้าที่ของคู่สมรส ไปจนถึงแนวทางการเตรียมเอกสารเพื่อไม่ให้เสียเปรียบในชั้นศาล


1. ความหมายของการฟ้องหย่า

การฟ้องหย่าคือการที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง (หรือทั้งสองฝ่าย) ยื่นคำฟ้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลพิพากษาว่าการสมรสนั้นสิ้นสุดลงตามกฎหมาย โดยจะต้องมีเหตุที่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516 เป็นหลัก


2. เหตุในการฟ้องหย่าตามกฎหมายไทย

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 เหตุแห่งการหย่าที่สามารถยื่นฟ้องได้ มีดังนี้:

  • คู่สมรสมีชู้หรือมีสัมพันธ์กับบุคคลอื่น
  • จงใจละทิ้งอีกฝ่ายเป็นเวลาเกิน 1 ปี
  • กระทำความรุนแรง หรือทำให้อีกฝ่ายได้รับความเสียหายทั้งร่างกายหรือจิตใจ
  • ฝ่ายหนึ่งไม่ให้ความช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายหรือภาระในครอบครัว
  • ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งบกพร่องในหน้าที่ของสามีภริยา
  • อยู่แยกกันเป็นเวลานานเกิน 3 ปีโดยไม่สมานฉันท์
  • ถูกจำคุกเกิน 1 ปีโดยอีกฝ่ายไม่ได้ยินยอม
  • บ้าโดยไม่สามารถรักษาให้หายได้เกิน 3 ปี
  • อีกฝ่ายมีโรคร้ายแรงที่อยู่ด้วยกันต่อไปไม่ได้

3. การฟ้องหย่าแตกต่างจากการหย่าโดยความยินยอมอย่างไร

  • ฟ้องหย่า: ต้องยื่นต่อศาล มีการพิสูจน์เหตุหย่า มีการไต่สวน
  • หย่าโดยความยินยอม: ทำได้ที่อำเภอ ไม่ต้องพิสูจน์เหตุผล ใช้เพียงความสมัครใจและเอกสาร

4. ขั้นตอนการฟ้องหย่า

  1. ปรึกษาทนายความ
    เพื่อประเมินโอกาสในการฟ้อง และจัดเตรียมพยานหลักฐานให้พร้อม
  2. รวบรวมหลักฐาน
    เช่น รูปถ่าย ข้อความแชท ใบรับรองแพทย์ พยานบุคคล
  3. จัดทำคำฟ้อง
    ซึ่งจะต้องระบุเหตุแห่งการหย่าอย่างชัดเจน พร้อมเรียกร้องเรื่องทรัพย์สิน การเลี้ยงดูบุตร หรือค่าอุปการะ
  4. ยื่นฟ้องต่อศาล
    พร้อมชำระค่าธรรมเนียมศาลและค่าทนาย (ถ้ามี)
  5. เข้าสู่กระบวนการพิจารณา
    เช่น นัดไกล่เกลี่ย นัดสืบพยาน จนถึงวันที่ศาลมีคำพิพากษา

5. การเตรียมตัวก่อนฟ้องหย่า

  • ตรวจสอบสิทธิในทรัพย์สินร่วม
  • ประเมินผลกระทบต่อบุตร (ถ้ามี)
  • วางแผนค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี
  • มีทนายที่ช่วยให้คำแนะนำด้านกฎหมาย

6. เอกสารที่ต้องใช้ในการฟ้องหย่า

  • สำเนาทะเบียนสมรส
  • สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน
  • พยานหลักฐานต่างๆ เช่น แชท รูปถ่าย ใบเสร็จ
  • สูติบัตรของบุตร (ถ้ามี)
  • หนังสือมอบอำนาจ (กรณีให้ทนายดำเนินการแทน)

7. ประเด็นที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม

เรื่องบุตร

  • การฟ้องหย่าอาจรวมการร้องขอสิทธิในการปกครองบุตรและค่าเลี้ยงดู
  • ศาลจะพิจารณาประโยชน์สูงสุดของบุตรเป็นสำคัญ

เรื่องทรัพย์สิน

  • การแบ่งสินสมรสจะพิจารณาจากการร่วมกันสร้าง
  • สินส่วนตัวของแต่ละฝ่ายจะไม่ได้ถูกนำมาแบ่ง

8. ค่าใช้จ่ายในการฟ้องหย่า

  • ค่าธรรมเนียมศาล: ประมาณ 2% ของทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง
  • ค่าทนายความ: ขึ้นอยู่กับข้อตกลง
  • ค่าพยาน เอกสาร และการเดินทาง

9. ระยะเวลาในการดำเนินคดีหย่า

โดยทั่วไปใช้เวลา 3-12 เดือน ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของคดีและการให้ความร่วมมือของคู่กรณี


10. ข้อควรระวังในการฟ้องหย่า

  • อย่าฟ้องโดยไม่มีหลักฐานเพียงพอ
  • อย่าตกลงเงื่อนไขใด ๆ โดยไม่เข้าใจผลทางกฎหมาย
  • อย่าประมาทในการร่างคำฟ้องหรือยื่นเอกสารต่อศาล

11. หากอีกฝ่ายไม่ยอมรับฟ้องหย่า

สามารถดำเนินคดีต่อเนื่องได้ โดยศาลจะพิจารณาจากพยานหลักฐาน หากเห็นว่ามีเหตุหย่าชอบด้วยกฎหมายก็สามารถพิพากษาให้หย่าได้


12. ฟ้องหย่าแล้วสามารถแต่งงานใหม่ได้หรือไม่

หลังจากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าให้หย่า และได้ดำเนินการแจ้งผลคำพิพากษาต่ออำเภอเรียบร้อยแล้ว จึงจะสามารถจดทะเบียนสมรสใหม่ได้ตามกฎหมาย


13. ความสำคัญของการมีทนายความในการฟ้องหย่า

แม้จะไม่ใช่ข้อบังคับ แต่การมีทนายความที่เข้าใจกฎหมายการหย่า จะช่วยวางแผน กลยุทธ์ และปกป้องสิทธิของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในกรณีที่มีทรัพย์สินมาก บุตร หรือคดีมีความซับซ้อน


14. ทางเลือกหากไม่ต้องการฟ้องหย่าแต่ใช้ชีวิตแยกกัน

  • ทำสัญญาแยกกันอยู่
  • แก้ไขทะเบียนบ้านหรือทะเบียนสมรสเพื่อสะท้อนสถานะที่แท้จริง
  • ขอคำแนะนำด้านกฎหมายเพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง

15. เคล็ดลับฟ้องหย่าอย่างไม่เสียเปรียบ

  • อย่าใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ให้เหตุผลตามข้อกฎหมาย
  • เตรียมเอกสารทุกชิ้นให้ครบถ้วนและมีลำดับ
  • ปรึกษาทนายก่อนดำเนินการทุกขั้นตอน
  • อย่าลงนามในเอกสารใด ๆ โดยไม่เข้าใจ

บทสรุป

การฟ้องหย่าเป็นกระบวนการที่ละเอียดอ่อนและต้องดำเนินการด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง การรู้ขั้นตอนทางกฎหมาย เหตุหย่าที่ใช้ได้ และการเตรียมตัวอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณสามารถปกป้องสิทธิของตนเอง และเดินหน้าเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างมั่นใจ


หากคุณต้องการคำปรึกษาเรื่องการฟ้องหย่า การเตรียมเอกสาร หรือดำเนินคดี สามารถติดต่อทนายวิรัชได้ที่
📞 สายด่วน โทร 0812585681
📱 Add Line: @732hjgrx

เปิดสู่ทางใหม่: คู่มือฟ้องหย่าอย่างมั่นใจในประเทศไทย

บทนำ

การตัดสินใจยุติชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อต้อง “ฟ้องหย่า” สิ่งสำคัญคือการเข้าใจขั้นตอน กระบวนการ และสิทธิที่คุณพึงได้รับ คู่มือนี้จะพาคุณไปรู้จักรายละเอียดของการฟ้องหย่าในประเทศไทย ตั้งแต่การเตรียมตัว การยื่นคำฟ้อง จนถึงผลลัพธ์ที่อาจตามมา

  • ทำความเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของทั้งสองฝ่าย
  • เรียนรู้ขั้นตอนทางกฎหมายที่ชัดเจน
  • วางแผนการแบ่งสินสมรสและดูแลผลประโยชน์หลังหย่า

หากต้องการคำปรึกษาโดยตรง สามารถติดต่อทนายวิรัช สายด่วน 081-258-5681 หรือ Add Line @732hjgrx


1. ความหมายและประเภทของการฟ้องหย่า

1.1 ฟ้องหย่าด้วยเหตุผลทั่วไป

  • ความไม่ลงรอยยินยอมกันภายในชีวิตครอบครัว
  • การประพฤติตนเป็นภัยต่อชีวิตหรืออนามัย
  • ปัจจัยทางเศรษฐกิจหรือสังคมที่ไม่สามารถแก้ไขได้

1.2 ฟ้องหย่าด้วยเหตุผลพิเศษ

  • คู่สมรสหนึ่งกระทำอนาจารต่อคู่สมรสหรือบุตร
  • การทอดทิ้งคู่สมรส หรือการทารุณกรรม
  • คู่สมรสสูญหายเกินกว่าหนึ่งปี

2. คุณสมบัติของผู้ฟ้องหย่า

  1. เป็นคู่สมรสตามกฎหมายไทย
  2. มีภูมิลำเนาหรือที่พำนักอยู่ในประเทศไทย
  3. เคยจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

3. ขั้นตอนการเตรียมเอกสาร

3.1 เอกสารส่วนบุคคล

  • สูติบัตร/บัตรประชาชนของคู่สมรสทั้งสองฝ่าย
  • ทะเบียนบ้าน

3.2 เอกสารการสมรส

  • ทะเบียนสมรสฉบับจริงหรือสำเนาที่รับรองสำเนาถูกต้อง
  • เอกสารแสดงการจดทะเบียนหย่า (กรณีเคยหย่าซ้ำ)

3.3 เอกสารแสดงหลักฐาน

  • รูปถ่ายหรือวิดีโอที่แสดงพฤติกรรมเข้าข่าย Grounds for Divorce
  • หลักฐานทางการเงิน: บัญชีธนาคาร ทะเบียนทรัพย์สิน

4. การยื่นคำฟ้องหย่า

  1. จัดทำคำฟ้องพร้อมแนบเอกสารหลักฐาน
  2. ยื่นคำฟ้องต่อศาลจังหวัดที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีภูมิลำเนา
  3. ชำระค่าธรรมเนียมศาลตามอัตราที่กฎหมายกำหนด

ระยะเวลา

  • ขั้นตอนการพิจารณาคดีเบื้องต้น: ประมาณ 3–6 เดือน
  • กรณีมีข้อพิพาทซับซ้อน อาจยืดเยื้อถึง 1 ปีขึ้นไป

5. การไกล่เกลี่ยและการเจรจา

  • ศาลมักกำหนดให้มีการไกล่เกลี่ยก่อนเข้าสู่กระบวนการพิพาทเต็มรูปแบบ
  • คู่สมรสสามารถตกลงกันเองเรื่องการแบ่งสินสมรสและค่าเลี้ยงดูบุตร
  • หากไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ ศาลจะพิจารณาคดีตามพยานหลักฐาน

6. การแบ่งสินสมรส

6.1 ประเภทสินสมรส

  • ทรัพย์สินได้มาในระหว่างสมรส
  • หนี้สินที่เกิดขึ้นในระหว่างสมรส

6.2 เกณฑ์การแบ่ง

  • ความเป็นธรรมตามสัดส่วนการมีส่วนร่วม
  • ดูแลสิทธิเด็ก (หากมีบุตร) ให้ได้รับสวัสดิการที่เหมาะสม

7. คำพิพากษาและผลหลังการฟ้องหย่า

  1. ศาลมีคำสั่งให้หย่าและระบุเงื่อนไขการแบ่งสินสมรส
  2. ระบุค่าเลี้ยงดูคู่สมรสหรือบุตร (ถ้ามี)
  3. การบังคับคดีหากฝ่ายใดไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา

8. คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

  1. ต้องมีทนายหรือไม่?
    – แนะนำให้มีทนายช่วยให้คำปรึกษาและจัดเตรียมเอกสารครบถ้วน
  2. เรื่องค่าเลี้ยงดูบุตรกำหนดอย่างไร?
    – ศาลพิจารณาจากรายได้ของผู้ฟ้องและความต้องการของเด็ก
  3. สามารถยื่นอุทธรณ์ได้หรือไม่?
    – หากไม่พอใจกับคำพิพากษา สามารถยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน

9. ผลกระทบทางกฎหมายและสังคม

  • ด้านกฎหมาย: สิทธิและหน้าที่หลังหย่า ผู้ที่หย่าต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล
  • ด้านสังคม: การปรับบทบาทในครอบครัว การดูแลบุตร การปรับตัวทางอารมณ์

10. แนวทางเตรียมตัวก่อนยื่นฟ้อง

  1. รวบรวมหลักฐานให้ชัดเจน
  2. ประเมินทรัพย์สินและหนี้สินที่ต้องแบ่ง
  3. ปรึกษาทนายล่วงหน้า เพื่อความชัดเจนในกลยุทธ์คดี

สรุป

การฟ้องหย่าเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความเข้าใจเรื่องกฎหมายและการเตรียมหลักฐานอย่างรอบด้าน เพื่อให้สิทธิของคุณได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม หากคุณกำลังมองหาการช่วยเหลือทางกฎหมาย หรือคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ สามารถติดต่อทนายวิรัช สายด่วน 081-258-5681 หรือ Add Line @732hjgrx


สนใจปรึกษาเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่

  • สายด่วน: 081-258-5681
  • Add Line: @732hjgrx

ฟ้องหย่า: คู่มือเบื้องต้นสำหรับผู้ต้องการยุติการสมรสตามกฎหมายไทย

การแต่งงานเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ แต่ในบางครั้ง ความสัมพันธ์อาจไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ และอาจนำไปสู่การ “ฟ้องหย่า” ซึ่งเป็นกระบวนการยุติความสัมพันธ์ตามกฎหมาย ในบทความนี้เราจะพาคุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฟ้องหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไทย ครอบคลุมทุกมิติที่จำเป็นอย่างเป็นระบบ


🔹 ความหมายของการฟ้องหย่า

การฟ้องหย่า คือ การยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้คู่สมรสหย่าขาดจากกัน ในกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยินยอมให้มีการหย่าโดยสมัครใจ


🔹 กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการฟ้องหย่า

การหย่าในประเทศไทยอยู่ภายใต้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516 ซึ่งระบุเหตุแห่งการหย่าไว้ชัดเจน หากฝ่ายใดไม่ยินยอม ต้องดำเนินการผ่านศาล

เหตุหย่าตามมาตรา 1516 ประกอบด้วย:

  1. คู่สมรสมีชู้หรือสมรสซ้อน
  2. กระทำความรุนแรงต่อกัน
  3. ละทิ้งกันเกิน 1 ปี
  4. เสื่อมเสียชื่อเสียงอีกฝ่าย
  5. ติดยาเสพติด / สุรา
  6. ทิ้งหน้าที่ในการเลี้ยงดู
  7. แยกกันอยู่เกิน 3 ปี
  8. วิกลจริตมากกว่า 3 ปี
  9. เจ็บป่วยรุนแรงจนอยู่ร่วมกันไม่ได้
  10. ฝ่ายหญิงมีสามีใหม่โดยไม่เลิกการสมรสเดิม

🔹 ความแตกต่าง: หย่าโดยสมัครใจ vs. ฟ้องหย่า

ประเภทการหย่าลักษณะต้องไปศาลหรือไม่ใช้เวลา
หย่าโดยสมัครใจทั้งสองฝ่ายยินยอมไม่ต้อง (ทำที่เขต)1 วัน
ฟ้องหย่า (ทางแพ่ง)มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยินยอมต้องหลายเดือน – ปี

🔹 ขั้นตอนการฟ้องหย่า

1. ปรึกษาทนายความ

เพื่อวิเคราะห์เหตุหย่า และรวบรวมหลักฐานเบื้องต้น

2. ยื่นคำฟ้องต่อศาล

ฝ่ายที่ต้องการหย่าจะต้องยื่นฟ้องต่อศาล โดยแนบพยานและหลักฐานแสดงเหตุหย่าที่ชัดเจน

3. การพิจารณาของศาล

ศาลจะนัดไต่สวนพยาน ตรวจสอบเอกสาร และฟังข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่าย

4. คำพิพากษา

หากศาลเห็นว่ามีเหตุสมควร ศาลจะมีคำสั่งให้หย่า และอาจตัดสินในเรื่องอื่น เช่น การเลี้ยงดูบุตร การแบ่งทรัพย์สิน ฯลฯ

5. จดทะเบียนหย่าที่อำเภอ

หลังจากศาลมีคำสั่งหย่าแล้ว ต้องไปจดทะเบียนหย่าที่อำเภอเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย


🔹 เอกสารประกอบการฟ้องหย่า

  • บัตรประชาชน / ทะเบียนบ้าน
  • ทะเบียนสมรส (ฉบับจริง)
  • หลักฐานที่แสดงเหตุหย่า (เช่น รูปถ่าย, แชท, พยานบุคคล)
  • สูติบัตรบุตร (ถ้ามี)
  • หลักฐานทรัพย์สินร่วม


🔹 ผลกระทบของการหย่าต่อสิทธิและหน้าที่

  1. สิ้นสุดความสัมพันธ์ในฐานะคู่สมรส
  2. การแบ่งทรัพย์สินร่วม
    • หากไม่มีสัญญาก่อนสมรส จะแบ่งครึ่งตามกฎหมาย
  3. สิทธิในการเลี้ยงดูบุตร
    • ศาลจะพิจารณาจากประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นหลัก
  4. ค่าอุปการะเลี้ยงดู
    • ฝ่ายใดไม่เลี้ยงดู ต้องชำระค่าเลี้ยงดูตามศาลสั่ง

🔹 ข้อควรระวังในการฟ้องหย่า

  • ไม่มีพยานหลักฐานชัดเจน อาจทำให้ศาลไม่เห็นพ้องกับเหตุผลในการหย่า
  • หากมีการสมรสซ้อนหรือการแอบมีชู้ ต้องระวังการถูกฟ้องกลับ
  • การประนีประนอมก่อนการฟ้อง อาจช่วยลดปัญหาความขัดแย้งและค่าใช้จ่าย

🔹 คำถามพบบ่อย (FAQ)

Q: อยู่กันคนละบ้านนานแค่ไหนถึงฟ้องหย่าได้?

A: หากแยกกันอยู่โดยไม่มีเหตุผลร่วมกันเกิน 3 ปี หรือฝ่ายหนึ่งทิ้งอีกฝ่ายเกิน 1 ปี สามารถฟ้องหย่าได้ตามกฎหมาย

Q: ฟ้องหย่าเองได้ไหม โดยไม่จ้างทนาย?

A: สามารถทำได้ หากคุณเข้าใจกฎหมายและสามารถยื่นเอกสารได้อย่างถูกต้อง แต่ขอแนะนำให้ปรึกษาผู้ที่มีความรู้ด้านกฎหมายก่อน

Q: บุตรจะอยู่กับใครหลังหย่า?

A: ศาลจะพิจารณาจากผลประโยชน์ของเด็ก ไม่ได้ขึ้นกับเพศของบิดาหรือมารดา


🔹 สรุป: การฟ้องหย่าไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หากเตรียมตัวถูกต้อง

แม้ว่าการฟ้องหย่าอาจดูซับซ้อนในสายตาของคนทั่วไป แต่หากคุณมีข้อมูลที่ถูกต้อง เข้าใจสิทธิของตนเอง และเตรียมตัวด้วยหลักฐานครบถ้วน การยุติความสัมพันธ์สมรสก็สามารถเป็นไปได้อย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมาย

หากคุณกำลังพิจารณาจะฟ้องหย่า และต้องการที่ปรึกษาด้านกฎหมายที่เข้าใจคุณ

📞 สามารถติดต่อทนายวิรัชได้ที่ สายด่วน โทร 081-258-5681
📱 หรือ Add Line @732hjgrx

ฟ้องหย่า: เข้าใจกฎหมายหย่า สิทธิ และกระบวนการในประเทศไทย

บทนำ

การฟ้องหย่าไม่ใช่แค่การยุติความสัมพันธ์ในฐานะสามีภรรยา แต่ยังเกี่ยวข้องกับสิทธิ หน้าที่ ทรัพย์สิน บุตร และอนาคตของแต่ละฝ่ายอย่างลึกซึ้ง บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจกระบวนการฟ้องหย่าในประเทศไทยอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งให้คำแนะนำด้านกฎหมายอย่างละเอียด โดยไม่ใช้ศัพท์ซับซ้อนหรือกฎหมายที่เข้าใจยาก


หย่าในประเทศไทย: แบบสมัครใจ vs ฟ้องหย่า

1. การหย่าโดยความยินยอมทั้งสองฝ่าย

คือการที่สามีภรรยาตกลงแยกทางกันโดยไม่มีข้อพิพาท ต้องทำหนังสือหย่าต่อหน้าพนักงานทะเบียน และเซ็นชื่อทั้งสองฝ่าย

เอกสารที่ใช้:

  • บัตรประชาชนตัวจริงของทั้งสองฝ่าย
  • ทะเบียนสมรส
  • หนังสือข้อตกลงเกี่ยวกับบุตรและทรัพย์สิน (ถ้ามี)

ข้อดี:

  • กระบวนการรวดเร็ว
  • ไม่ต้องขึ้นศาล
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย

2. การฟ้องหย่า (กรณีมีข้อพิพาทหรืออีกฝ่ายไม่ยินยอม)

ในกรณีที่อีกฝ่ายไม่ยินยอมหย่า หรือมีเหตุแห่งการหย่าตามกฎหมาย จำเป็นต้อง “ฟ้องหย่า” ต่อศาล


เหตุแห่งการฟ้องหย่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516

กฎหมายไทยระบุเหตุที่สามารถนำมาใช้ในการฟ้องหย่าได้ โดยต้องพิสูจน์ในชั้นศาล ได้แก่:

เหตุฟ้องหย่าคำอธิบาย
มีชู้ หรือสัมพันธ์ชู้สาวไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่สมรส
กระทำทารุณกรรมทำร้ายร่างกาย จิตใจ หรือมีพฤติกรรมรุนแรง
จงใจละทิ้งทอดทิ้งไม่ให้เลี้ยงดูเกิน 1 ปี
แยกกันอยู่เกิน 3 ปีโดยไม่มีเหตุอันควร
ต้องโทษจำคุกเกิน 1 ปี โดยมีผลต่อชีวิตสมรส
มีโรคร้ายแรงหรือจิตฟั่นเฟือนส่งผลให้ใช้ชีวิตคู่ไม่ได้ตามปกติ
ขาดการติดต่อเกิน 3 ปีไม่ทราบว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ใด

ขั้นตอนการฟ้องหย่า

ขั้นตอนที่ 1: ปรึกษาทนายเพื่อวิเคราะห์ข้อกฎหมาย

ทนายความจะช่วยวิเคราะห์ว่าเหตุหย่าเข้าข่ายตามกฎหมายหรือไม่ และเตรียมหลักฐานที่เหมาะสม

ขั้นตอนที่ 2: ยื่นฟ้องศาล

ต้องยื่นคำฟ้องต่อศาลจังหวัดที่ฝ่ายถูกฟ้องมีภูมิลำเนา หรือที่เกิดเหตุแห่งคดี เช่น บ้านที่ใช้ร่วมกัน

ขั้นตอนที่ 3: นัดไกล่เกลี่ย

ศาลจะนัดไกล่เกลี่ยก่อนเพื่อหาทางตกลง หากตกลงกันได้ก็จะมีคำพิพากษาให้หย่าโดยไม่จำเป็นต้องพิจารณาคดีเต็มรูปแบบ

ขั้นตอนที่ 4: พิจารณาคดี

หากตกลงไม่ได้ ศาลจะไต่สวนพยานหลักฐาน ก่อนมีคำพิพากษาให้หย่าหรือไม่

ขั้นตอนที่ 5: จดทะเบียนหย่าหลังศาลมีคำสั่ง

แม้ศาลจะพิพากษาให้หย่าแล้ว ต้องนำคำสั่งศาลไปจดทะเบียนหย่ากับสำนักงานเขตหรืออำเภอเพื่อให้สมบูรณ์ตามกฎหมาย


ประเด็นที่ต้องตกลงในการฟ้องหย่า

1. สิทธิในการปกครองบุตร

ศาลจะพิจารณาจากประโยชน์สูงสุดของบุตร ไม่จำเป็นว่ามารดาจะได้สิทธิเสมอไป

2. ค่าเลี้ยงดูบุตร

ฝ่ายที่ไม่ได้ดูแลบุตรต้องจ่ายเงินเลี้ยงดู ซึ่งสามารถตกลงกัน หรือให้ศาลกำหนดตามฐานะ

3. แบ่งทรัพย์สิน

ต้องแยก ทรัพย์สินส่วนตัว กับ สินสมรส (ทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างสมรส) และแบ่งกันตามกฎหมาย


เอกสารที่จำเป็นในการฟ้องหย่า

  • สำเนาทะเบียนสมรส
  • หลักฐานที่แสดงเหตุฟ้อง (เช่น รูปถ่าย แชท เอกสารจากตำรวจ หรือแพทย์)
  • ทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน
  • เอกสารเกี่ยวกับบุตร (ถ้ามี)
  • เอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สิน เช่น โฉนดบ้าน รถยนต์ รายการบัญชีธนาคาร

คำถามพบบ่อยเกี่ยวกับการฟ้องหย่า

Q1: ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการฟ้องหย่า?

A: โดยเฉลี่ย 4–12 เดือน ขึ้นอยู่กับการไกล่เกลี่ยและจำนวนพยานหลักฐาน

Q2: ค่าทนายความประมาณเท่าไหร่?

A: ประมาณ 20,000–80,000 บาท แล้วแต่ความซับซ้อนของคดี

Q3: หากอีกฝ่ายไม่มาศาลจะเป็นอย่างไร?

A: ศาลสามารถพิจารณาคดีฝ่ายเดียวได้ หากเรียกแล้วไม่มาตามนัด

Q4: ถ้ามีชู้ จำเป็นต้องมีหลักฐานชัดเจนแค่ไหน?

A: ต้องมีพยานหรือหลักฐานที่สามารถบ่งชี้ได้ถึงความสัมพันธ์ชู้สาว เช่น การใช้ชีวิตร่วมกัน คำสารภาพ แชทที่ชัดเจน หรือพยานบุคคล


คำแนะนำก่อนตัดสินใจฟ้องหย่า

  1. ประเมินผลกระทบทางอารมณ์ – การหย่าคือการเปลี่ยนแปลงที่อาจกระทบต่อบุตรและครอบครัว ควรไตร่ตรองให้ดี
  2. เก็บรวบรวมหลักฐานล่วงหน้า – หากคิดว่าจำเป็นต้องฟ้อง ควรเก็บพยานหลักฐานไว้แต่เนิ่น ๆ
  3. พูดคุยเจรจา – หากยังพอมีช่องทางตกลงด้วยดี การหย่าโดยความยินยอมจะง่ายกว่า
  4. เตรียมวางแผนการเงิน – ทั้งในแง่ทรัพย์สินส่วนตัวและภาระค่าใช้จ่ายหลังหย่า
  5. ไม่ควรฟ้องหย่าโดยใช้อารมณ์ – ให้พิจารณาอย่างรอบคอบทุกแง่มุม

สรุป

การฟ้องหย่าในประเทศไทยมีขั้นตอนและข้อกฎหมายที่ต้องศึกษาให้เข้าใจอย่างละเอียด ทั้งในเรื่องเหตุผลตามกฎหมาย เอกสารที่จำเป็น และกระบวนการในศาล การมีทนายความที่เข้าใจกฎหมายและสามารถอธิบายอย่างชัดเจน จะช่วยให้กระบวนการหย่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่เพิ่มภาระทางจิตใจและทรัพย์สินโดยไม่จำเป็น

หากคุณกำลังเผชิญปัญหาในชีวิตคู่และต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถติดต่อทนายวิรัชเพื่อปรึกษาคดีหย่าอย่างเป็นกันเองได้ที่:

📞 สายด่วน โทร 081-258-5681
📱 Add LINE: @732hjgrx