บทนำ
ในโลกที่เต็มไปด้วยสัญญา ข้อพิพาท และการกระทำที่อาจกระทบสิทธิของผู้อื่น การมี “ทนายแพ่ง” คอยช่วยเหลือจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะคดีแพ่งไม่ได้หมายถึงเพียงการฟ้องร้องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการไกล่เกลี่ย การเรียกร้องค่าเสียหาย การทวงหนี้ หรือแม้แต่การจัดการทรัพย์มรดก บทความนี้จะพาคุณเข้าใจบทบาท หน้าที่ และเหตุผลที่คุณอาจต้องการทนายความแพ่งในชีวิตจริง
ทนายแพ่งคือใคร?
ทนายแพ่งคือนิติกรผู้มีหน้าที่ให้คำปรึกษาและดำเนินการทางกฎหมายในคดีแพ่ง ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เช่น การผิดสัญญา การละเมิด การเรียกร้องค่าเสียหาย หรือการแบ่งทรัพย์สินในครอบครัว
คดีแพ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องใดบ้าง?
- คดีผิดสัญญา
- ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด
- ไม่ส่งมอบสินค้า/บริการตามตกลง
- ผิดข้อตกลงทางธุรกิจ
- คดีละเมิด
- การทำให้ผู้อื่นเสียหายทางร่างกายหรือทรัพย์สิน
- การหมิ่นประมาท
- การกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายโดยไม่เกี่ยวกับสัญญา
- คดีมรดก
- การจัดการมรดกของผู้เสียชีวิต
- การฟ้องแบ่งทรัพย์สิน
- การยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก
- คดีครอบครัว (เฉพาะส่วนแพ่ง)
- แบ่งสินสมรส
- เรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดู
- สิทธิในการปกครองบุตร
- คดีบังคับคดี
- การบังคับให้คู่กรณีชำระหนี้
- การยึดทรัพย์
- การอายัดเงินเดือนหรือบัญชี
ทำไมจึงควรมีทนายแพ่งคอยดูแล?
แม้ในบางกรณีคุณจะสามารถดำเนินคดีด้วยตนเองได้ แต่ในความเป็นจริง การมีทนายช่วยเหลือจะช่วยให้คุณ:
- เข้าใจกฎหมายอย่างถูกต้อง
- เตรียมเอกสารและพยานหลักฐานครบถ้วน
- ลดความผิดพลาดจากการยื่นคำฟ้องหรือคำให้การ
- เพิ่มโอกาสในการชนะคดี
- ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว
ตัวอย่างสถานการณ์ที่ควรปรึกษาทนายแพ่ง
1. ถูกเบี้ยวเงินค่าสินค้า
คุณส่งสินค้าให้ลูกค้าตามใบสั่งซื้อ แต่ลูกค้าปฏิเสธการชำระเงินโดยอ้างว่าไม่ได้รับสินค้า การฟ้องเรียกหนี้และค่าเสียหายต้องมีพยานหลักฐาน เช่น ใบส่งของ ใบเสร็จ และหลักฐานการโอนเงิน ซึ่งทนายจะช่วยรวบรวมและวางแนวทางการดำเนินคดีให้คุณ
2. คู่สมรสไม่แบ่งทรัพย์สินหลังหย่า
แม้จะหย่ากันแล้ว หากยังมีสินสมรสค้างคา เช่น ที่ดิน บ้าน หรือบัญชีเงินฝาก คุณสามารถยื่นฟ้องเรียกร้องสิทธิในส่วนของคุณได้ ทนายจะช่วยดำเนินการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
3. ลูกค้าไม่ทำตามสัญญาจ้าง
ในกรณีที่คุณเป็นผู้รับเหมาและผู้ว่าจ้างไม่ชำระเงินตามข้อตกลงหลังทำงานเสร็จ ทนายจะช่วยคุณวิเคราะห์ข้อสัญญา เตรียมฟ้อง และเจรจาเรียกร้องค่าเสียหายตามจริง
ขั้นตอนการทำงานกับทนายแพ่ง
- ปรึกษาเบื้องต้น
ทนายจะฟังปัญหา วิเคราะห์แนวทาง และแนะนำการดำเนินคดีอย่างเหมาะสม - ตรวจสอบเอกสาร
เช่น สัญญา ใบเสร็จ รูปถ่าย หรือข้อความแชต - ส่งหนังสือทวงถามหรือเจรจา
เพื่อให้คู่กรณียอมรับผิดและชำระหนี้โดยไม่ต้องฟ้อง - ยื่นฟ้องศาล
หากการเจรจาไม่ได้ผล ทนายจะร่างคำฟ้องและยื่นต่อศาล - ดำเนินคดีและต่อสู้คดีในศาล
ทนายจะเป็นผู้แทนคุณในการต่อสู้คดี ให้การ และยื่นคำร้องต่าง ๆ - บังคับคดี
หากชนะคดี ทนายจะดำเนินการยึดทรัพย์หรืออายัดเงินของจำเลยตามคำพิพากษา
ค่าบริการของทนายแพ่ง
ค่าทนายขึ้นอยู่กับลักษณะของคดี เช่น ความยากง่าย จำนวนพยานหลักฐาน มูลค่าทรัพย์ที่พิพาท ซึ่งปกติจะมีทั้งแบบ:
- ค่าปรึกษาเป็นครั้ง: เหมาะสำหรับคำแนะนำทั่วไป
- ค่าทำสัญญาหรือเอกสาร: ตามชิ้นงาน
- ค่าดำเนินคดี: แบ่งเป็นค่ายื่นฟ้องและค่าต่อสู้คดี
- ค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทาง: หากต้องไปต่างจังหวัด
ข้อแนะนำก่อนตัดสินใจเลือกทนายแพ่ง
- ตรวจสอบใบอนุญาตจากสภาทนายความ
- สอบถามค่าบริการให้ชัดเจน
- ดูประสบการณ์จากเคสที่ใกล้เคียง
- สื่อสารง่าย ตอบคำถามชัดเจน
- มีแนวทางที่เป็นรูปธรรมและตรงไปตรงมา
FAQ – คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับทนายแพ่ง
Q: ไม่แน่ใจว่าคดีของเราเป็นคดีแพ่งหรืออาญา ควรทำอย่างไร?
A: ปรึกษาทนายก่อน ทนายจะสามารถวินิจฉัยให้ได้ว่าคดีอยู่ในขอบเขตใด
Q: หากไม่อยากฟ้อง แต่อยากเจรจา ควรทำอย่างไร?
A: ทนายสามารถช่วยเจรจาและทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรได้
Q: ต้องไปศาลทุกครั้งหรือไม่?
A: หากแต่งตั้งทนายเป็นผู้แทนในคดี ทนายสามารถดำเนินการแทนได้เกือบทั้งหมด
Q: มีโอกาสเรียกคืนค่าเสียหายที่เสียไปหรือไม่?
A: หากมีพยานหลักฐานเพียงพอ โอกาสในการเรียกร้องค่าเสียหายก็มีสูง
สรุป
การมีทนายแพ่งคอยดูแล เป็นการปกป้องสิทธิของคุณและช่วยให้คุณดำเนินการในทางกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัญญา ทรัพย์สิน หนี้ หรือความขัดแย้งภายในครอบครัว การปรึกษาทนายตั้งแต่ต้นจะช่วยลดความเสียหายในอนาคต
หากคุณกำลังเผชิญปัญหาทางกฎหมายแพ่ง ไม่ต้องกังวลใจ
สามารถติดต่อทนายวิรัชได้ที่ สายด่วน โทร 0812585681 หรือ add line @732hjgrx