กฎหมายใกล้ตัวที่ควรรู้ก่อนสายเกินไป

บทนำ

กฎหมายอาจดูเป็นเรื่องซับซ้อนสำหรับใครหลายคน แต่ในความเป็นจริงแล้ว กฎหมายมีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำสัญญา การซื้อขายสินค้า การแต่งงาน การทำงาน ไปจนถึงการรับผิดทางอาญา หากเราไม่เข้าใจกฎหมาย อาจทำให้ถูกเอาเปรียบหรือเสียสิทธิของตนเองโดยไม่รู้ตัว

บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจ “กฎหมายใกล้ตัว” ที่มักเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน แบ่งเป็นหัวข้อสำคัญ ๆ ที่ควรทราบ พร้อมแนวทางในการป้องกันปัญหาทางกฎหมาย เพื่อให้คุณใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการคุ้มครองสิทธิและประโยชน์ของตนเองได้อย่างมั่นใจ


กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (Civil and Commercial Code)

1. สัญญาที่พบบ่อยในชีวิตประจำวัน

การทำสัญญาไม่จำเป็นต้องมีเอกสารทุกครั้ง เพียงการตกลงด้วยวาจา หากมีเจตนาตรงกัน ก็ถือว่าเป็นสัญญาแล้ว เช่น

  • ซื้อขายของออนไลน์
  • เช่าบ้านหรือเช่ารถ
  • กู้ยืมเงิน

แต่หากเป็นสัญญาบางประเภท กฎหมายกำหนดว่าต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร เช่น สัญญาเช่าที่ดินเกิน 3 ปี หรือ สัญญาค้ำประกัน หากไม่ทำเป็นหนังสือจะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้

เคล็ดลับ: เวลาทำสัญญาควรเก็บหลักฐาน เช่น สลิปโอนเงิน แชท หรือใบเสร็จ เพื่อป้องกันข้อพิพาทในอนาคต


2. หนี้และการชำระหนี้

กฎหมายกำหนดว่าลูกหนี้ต้องชำระหนี้ตามกำหนดเวลา หากผิดนัด เจ้าหนี้สามารถเรียกดอกเบี้ยผิดนัดได้ (โดยทั่วไปไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด)

ตัวอย่าง:

  • กู้เงินเพื่อน 50,000 บาท โดยไม่มีดอกเบี้ย แต่เมื่อครบกำหนดไม่คืน เพื่อนมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยผิดนัดตามที่กฎหมายกำหนดได้

3. การสมรสและทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา

เมื่อมีการสมรสโดยถูกต้องตามกฎหมาย จะเกิดทรัพย์สินสองประเภท คือ

  • สินส่วนตัว เช่น ทรัพย์ที่ได้มาก่อนสมรส
  • สินสมรส เช่น เงินเดือนหลังแต่งงาน หรือทรัพย์สินที่ซื้อระหว่างสมรส

หากหย่าร้าง ต้องแบ่งสินสมรสครึ่งหนึ่ง เว้นแต่จะมีการทำ สัญญาก่อนสมรส (Prenuptial Agreement)


กฎหมายอาญา (Criminal Law)

4. ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์

กฎหมายอาญากำหนดความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ไว้หลายรูปแบบ เช่น

  • ลักทรัพย์ (มาตรา 334)
  • ยักยอกทรัพย์ (มาตรา 352)
  • ฉ้อโกง (มาตรา 341)

ตัวอย่าง:

  • หยิบมือถือของเพื่อนไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นลักทรัพย์
  • รับฝากเงินแล้วเอาไปใช้ส่วนตัว ถือเป็นยักยอก

5. ความผิดเกี่ยวกับร่างกายและเสรีภาพ

  • การทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนบาดเจ็บ (มาตรา 295) มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี
  • หากทำให้บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต โทษจะหนักขึ้นตามลำดับ

6. ความผิดทางเทคโนโลยี (Cybercrime)

ในยุคดิจิทัล การโพสต์ข้อความเท็จหรือหมิ่นประมาทผู้อื่นบนโลกออนไลน์อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

เคล็ดลับ: ควรคิดก่อนโพสต์ เพราะการแชร์หรือส่งต่อข้อความหมิ่นประมาทก็มีความผิดได้เช่นกัน


กฎหมายแรงงาน (Labor Law)

7. สิทธิของลูกจ้าง

ลูกจ้างมีสิทธิตามกฎหมาย เช่น

  • ค่าจ้างขั้นต่ำ
  • วันหยุดประจำปี
  • ค่าชดเชยกรณีเลิกจ้างไม่เป็นธรรม

ตัวอย่าง:
หากนายจ้างเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย ลูกจ้างสามารถร้องเรียนต่อสำนักงานแรงงานได้


8. การเลิกจ้างและการคุ้มครองแรงงาน

หากนายจ้างเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม เช่น เลิกจ้างทันทีโดยไม่มีเหตุผล ลูกจ้างมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมได้


กฎหมายครอบครัวและมรดก

9. การหย่า

การหย่ามี 2 แบบ

  • หย่าโดยความยินยอม ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน
  • หย่าโดยคำพิพากษาศาล หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยินยอม

10. มรดกและพินัยกรรม

  • หากไม่มีพินัยกรรม มรดกจะตกทอดตามลำดับทายาทโดยธรรม
  • หากทำพินัยกรรม สามารถกำหนดได้ว่าจะยกทรัพย์สินให้ใคร

เคล็ดลับ: ควรทำพินัยกรรมเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อป้องกันข้อพิพาทภายในครอบครัว


ทำไมควรเรียนรู้กฎหมาย

  1. ป้องกันการถูกเอาเปรียบ
  2. รักษาสิทธิของตนเอง
  3. ลดความเสี่ยงทางธุรกิจและการเงิน
  4. เตรียมพร้อมเมื่อต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

สรุป

กฎหมายไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน การมีความรู้พื้นฐานทางกฎหมาย จะช่วยให้คุณดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นใจและลดความเสี่ยงจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

หากคุณกำลังเผชิญปัญหาทางกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัญญา แรงงาน ครอบครัว หรือคดีอาญา การขอคำปรึกษาจากทนายความถือเป็นสิ่งสำคัญ

👉 สามารถติดต่อทนายวิรัชได้ที่ สายด่วน โทร 0812585681 หรือ add line @732hjgrx

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *